
เพราะประตูที่นำไปสู่ความสำเร็จนั้นมักหายาก และคนที่หาพบก็มีน้อย เราจึงต้องเลือกประตูให้ถูกบานตั้งแต่แรก
“มีทางหนึ่งซึ่งคนเราคิดว่าถูก แต่ปลายทางคือความมรณา”
- สุภาษิต 14:12 THSV11

จริงๆ แล้ววันนี้ผมกำลังตั้งคำถามกับตัวเองหลายอย่างเกี่ยวกับทั้งธุรกิจและพันธกิจ งานหลายอย่างที่เคยทำมาแล้วก็ยังทำอยู่ ธุรกิจที่เราเริ่มต้นไปแล้วและกำลังสนใจอยากเริ่มต้น พันธกิจที่อยากทำเองแล้วก็มีคนมาชวนให้ทำ หลาย ทั้งหมดทั้งปวงนี้ ดูเหมือนยังไม่มีอะไรไปถึงจุดที่ตัวเราเองพอใจได้เลย
ผมเลยอ่านพระคัมภีร์ต่อ แล้วก็มาถึงคิวของพระคัมภีร์ข้อนี้ครับ เชื่อว่าพี่น้องแทบทุกคนคงเคยได้ยินหรือเคยอ่านพระคัมภีร์ข้อนี้กันมาอยู่แล้ว
“จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่ และทางกว้างนั้นนำไปถึงความพินาศ และคนทั้งหลายที่เข้าไปทางนั้นมีมาก เพราะประตูที่แคบและทางที่ลำบากนั้นนำไปสู่ชีวิต และพวกที่หาพบก็มีน้อย” - มัทธิว 7:13-14 THSV11
ทันทีที่ผมได้อ่านพระคัมภีร์ข้อนี้ ก็รู้สึกว่ามีคำตอบบางอย่างผุดขึ้นมาในใจ 😍😍
"ทางสู่ชีวิตเป็นประตูที่คับแคบ ทางสู่ความสำเร็จก็เช่นเดียวกัน"
-----------
ลองมาดูกันก่อนว่าประตูใหญ่และประตูแคบคืออะไร
จำตอนที่โควิดระบาดรอบที่แล้วได้มั้ยครับ เราได้เห็นพ่อค้าแม่ค้ามากมายที่แห่กันไปกักตุนหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ เพราะคาดหวังว่าจะได้เอามาขายเก็งกำไร แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ก็พังพินาศ ขาดทุนย่อยยับ มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ร่ำรวยขึ้นมาได้จากครั้งนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือตัวโรงงานหรือคนที่เข้าถึงโรงงานจริงๆ ได้ก่อนคนอื่นนั่นเอง
การเป็นโรงงานหรือการเข้าถึงโรงงานผลิตที่แท้จริงได้ นั่นคือประตูแคบ มันทำได้ยาก ต้องใช้ความพยายามมาก และต้องเป็นคนแรกๆ ที่มองเห็นโอกาสจึงกระโดดลงไปเล่นเกมนี้ก่อน
ส่วนคนอื่นๆ ล่ะ ก็แค่ไปขอรับซื้อต่อมาจากคนที่ประกาศขายในอินเตอร์เน็ต ซึ่งหาได้ง่ายๆ ขนาดที่ใครๆ ก็หาได้ แบบนี้แหละคือประตูกว้าง
--------------
แทบทุกธุรกิจก็มักจะมีเรื่องราวแบบนี้
เกือบ 20 ปีที่แล้ว บ้านเราแทบไม่เคยมีร้านหมูกระทะ แต่มาวันนี้สิ ร้านหมูกระทะมีแทบทุกถนน
ก่อนหน้านี้ บ้านเราก็ไม่เคยมีร้านชานมไข่มุก แต่มาวันนี้ ผมก็ไม่แน่ใจว่าระหว่างร้านชานมไข่มุกกับเซเว่น อันไหนเยอะกว่ากันแล้ว
แต่ถ้าเราลองดูจริงๆ ก็จะรู้ว่า มีร้านหมูกระทะแค่ไม่กี่ร้าน ร้านชานมไข่มุกแค่ไม่กี่แบรนด์ ที่ประสบความสำเร็จได้จริงๆ เพราะเขาเลือกเข้าตลาดแบบประตูแคบ
เขาหาเจอว่าประตูที่จะนำเขาไปสู่ความสำเร็จในการยึดหัวหาดในใจลูกค้าคืออะไร เขาสร้างความแตกต่างที่แท้จริงระหว่างธุรกิจของเขากับของคู่แข่งที่มีอยู่เต็มในท้องตลาดได้
--------------
ดังนั้นเราจึงต้องเข้าใจว่า เส้นทางสู่ความสำเร็จไม่เคยมีคำว่า "ง่าย" ชนิดที่แค่ "เลียนแบบ" คนอื่นที่เขามาก่อนก็สำเร็จได้
เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่า "ทำธุรกิจนี้ก็ง่ายๆ แค่นี้เอง" ให้รีบกระตุกตัวเอง ตั้งสติคิดทบทวนดูอย่างจริงจัง ว่าเรากำลังเดินไปทางประตูกว้างอยู่หรือเปล่า
อย่าหลงไปตามกระแส เห็นใครๆ เขาก็ทำกันก็เลยจะทำบ้าง เพราะกลัวตกรถ (อาการนี้ทางจิตวิทยาเรียกว่า #FOMO หรือ Fear of Missing Out หมายถึงกลัวพลาดโอกาสดีๆ จนไม่สนใจว่าโอกาสนั้นมีความเสี่ยงมากเท่าไหร่และถ้าพลาดขึ้นมาจะเสียหายร้ายแรงขนาดไหน)
ถ้าเมื่อไหร่อาการ FOMO เริ่มทำงาน ให้รีบท่องพระคัมภีร์ข้อนี้เลยครับ
“มีทางหนึ่งซึ่งคนเราคิดว่าถูก แต่ปลายทางคือความมรณา”
สุภาษิต 14:12 THSV11
---------------
ถ้าอยากเดินไปบนทางแห่งประตูแคบ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ
"มองหาความต้องการหรือความเจ็บปวดของลูกค้าที่ไม่เคยมีใครตอบสนองมาก่อน"
แน่นอนว่า มันไม่ได้ง่ายใช่มั้ยล่ะครับ ก็นั่นแหละครับ เพราะมันเป็นประตูแคบไง
แต่เมื่อเราหาประตูแคบนั้นพบ แล้วเปิดประตูนั้นออกได้
เราก็จะพบทางที่นำไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุดครับ และแน่นอนว่ามันจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืนอย่างแน่นอน
----------------
สำหรับผม หลังจากที่ได้อ่านพระคัมภีร์ข้อนี้ ผมก็ได้รับคำตอบแล้วว่า ทางสู่ความสำเร็จมันเป็นประตูแคบ ไม่ง่ายนักหรอกที่เราจะหาเจอ การที่เราทำอะไรหลายอย่าง ก็คือ การพยายามมองหา "ประตูแคบ" ของเราให้เจอ ซึ่งระหว่างนั้นเราก็จะเจอประตูมากมายที่ "ไม่ใช่ประตูแคบสำหรับเรา"
ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงประทานคำตอบที่ค้างคาใจให้ผ่านพระคัมภีร์ข้อนี้ครับ


